วันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2556

วันแม่แห่งชาติ




แม่...คำนี้มีอานุภาพยิ่งใหญ่ในใจลูกทุกคน จนยากที่จะเปรียบเทียบได้กับทุกสรรพสิ่งในโลก ดังคำขวัญที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้พระราชทานไว้ว่า แม่เป็นพระอรหันต์ของลูก คนที่เที่ยววิ่งหาพระเพื่อกราบไหว้พระอรหันต์ อย่าลืมว่ามีพระอรหันต์อยู่กับตัวแล้ว ควรปฏิบัติต่อแม่อย่าให้บกพร่องได้พระคุณของแม่อันประกอบไปด้วยความรักที่มีต่อลูกอย่างสุดหัวใจเช่นนี้ คงไม่ยากจนเกินไปนัก หากเอ่ยคำว่า รักให้แม่ได้ชื่นใจบ้าง เพราะคุณอาจโชคดีกว่าหลาย ๆ คนที่ได้เพียงแต่รำลึกถึงพระคุณแม่ผ่านภาพและเงาที่ตราตรึงไว้ในความทรงจำเท่านั้นว่า ลูกรักแม่

  ความเป็นมาวันแม่แห่งชาติ
ประเทศไทยนั้นมีการจัดงานวันแม่ขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2486 ณ.สวนอัมพร โดยมีกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้จัดงาน แต่เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 งานวันแม่ในปีต่อมาจึงต้องงดไปโดยปริยาย หลังจากผ่านพ้นวิกฤติสงครามไปแล้ว หลายหน่วยงานได้พยายามรื้อฟื้นให้มีวันแม่ขึ้นมาอีก แต่ก็ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร และมีการเปลี่ยนกำหนดวันแม่ไปหลายครั้ง แต่กำหนดวันแม่ที่ประชาชนนิยม และเป็นที่รับรองของรัฐบาล คือวันที่ 15 เมษายน โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2493 กำหนดงานวันแม่ในวันนี้ยังดำเนินต่อมาอีกหลายปี ก็ต้องมาหยุดชะงักลงอีก ด้วยเหตุผลที่ว่าสภาวัฒนธรรมแห่งชาติผู้จัดงานวันแม่ขาดผู้สนับสนุนซึ่งก็คือกระทรวงวัฒนธรรมที่ถูกยุบไปนั่นเอง

 ต่อมาสมาคมครูคาทอลิกแห่งประเทศไทยเห็นว่าควรมีการจัดงานวันแม่ต่อไป จึงได้รื้อฟื้นงานวันแม่ขึ้นมาอีก และได้กำหนดให้จัดงานวันแม่ คือวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2515 แต่จัดได้เพียงปีเดียวก็เลิกไป จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2519 คณะกรรมการอำนวยการสภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์เห็นว่าควรกำหนดวันแม่ให้แน่นอนเสียที จึงได้กำหนดวันแม่ใหม่โดยให้ถือว่าวันเสด็จพระราชสมภพของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ วันที่ 12 สิงหาคม เป็นวันแม่แห่งชาติ และ กำหนดให้ดอกมะลิเป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ตั้งแต่นั้นมา



เหตุผลที่ให้ดอกมะลิ เป็นดอกไม้สัญลักษณ์ของวันแม่ ก็เนื่องจาก ดอกมะลิเป็นดอกไม้ที่มีสีขาวบริสุทธิ์ ส่งกลิ่นหอมไปไกลและหอมได้นาน อีกทั้งยังออกดอกได้ตลอดทั้งปี เปรียบได้กับความรักอันบริสุทธิ์ของแม่ที่มีต่อลูกไม่มีวันเสื่อมคลาย...

ชื่อ :.. ;   มะลิ มะลิลา มะลิหลวง มะลิซ้อน
ชื่อวิทยาศาสตร์ และชื่อพฤกษศาสตร์ ;         Jusminum adenophyllum.
วงศ์ :..  OLEACEAE
ชื่อสามัญ :. ;     -
ถิ่นกำเนิด :..;    -
ลักษณะทั่วไป ;           เป็นพรรณไม้พุ่มยืนต้นขนาดกลาง แตกกิ่งก้านสาขาออกรอบๆ ลำต้นสูงประมาณ 5 ฟุต ใบเป็นใบเดี่ยวแตกออกเป็นคู่ ไปตามก้านต้นลักษณะใบป้อมมน ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ขอบใบเรียบไม่มีจัก ผิวใบเรียบสีเขียวเข้มเป็นมัน ใบยาว 2-3 นิ้ว มีดอกเป็นดอกเดี่ยว ออกเป็นช่อตามปลายยอดหรือปลายกิ่งประมาณ 3-5 ดอก แล้วแต่ชนิดพันธุ์ ดอกมีสีขาวกลิ่นหอม มีทั้งดอกลาและดอกซ้อน ออกดอกตลอดปี
การขยายพันธุ์ ;           เป็นไม้ที่ชอบแสงแดดจัด หรือกลางแจ้ง ต้องการน้ำปานกลาง ปลูกในดินร่วนซุย ขยายพันธุ์โดยการปักชำ หรือตอนกิ่ง
สรรพคุณทางยา ;        มะลินอกจากจะมีกลิ่นหอมไว้ดมแล้ว มะลิดอกแห้งใช้ปรุงเครื่องยาหอมใช้บำรุงหัวใจได้เป็นอย่างดี

กิจกรรมต่าง ๆ ที่ควรปฏิบัติในวันแม่แห่งชาติ
ดอกมะลิ ดอกไม้สัญลักษณ์วันเเม่
1. ข้าราชการ พ่อค้า ประชาชน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศ
2. ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพรแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ
3. การประดับไฟเฉลิมพระเกียรติ และประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน
4. จัดกิจกรรมต่าง ๆ เกี่ยวกับวันแม่ เช่น การจัดนิทรรศการ การแสดง การประกวดต่างๆ เพื่อรำลึกถึงพระคุณของแม่
5. การบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ทำบุญใส่บาตรอุทิศส่วนกุศล
6. นำพวงมาลัยดอกมะลิไปกราบขอพรจากแม่

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

การเลือกตั้งประธานาธิบดีประเทศมาเลเซีย ปี2013

การเลือกตั้งประธานาธิบดีประเทศมาเลเซีย ปี2013

นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค

   ปฏิเสธไม่ได้ว่าหนึ่งในการเลือกตั้งทั่วไปในต่างประเทศที่มีสีสันและถูกจับตามองมากที่สุดสังเวียนหนึ่งในปี 2013 นี้ คือการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นในแดนเสือเหลือง มาเลเซีย ประเทศเพื่อนบ้านของเรานั่นเอง
       การเลือกตั้งทั่วไปรอบล่าสุดของมาเลเซียที่จัดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 5 พฤษภาคม 2013 ที่ผ่านมาเกิดขึ้นหลังการประกาศของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเพื่อให้มีการยุบสภาอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน โดยการเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รวมถึงสมาชิกสภาท้องถิ่นของรัฐต่างๆ จำนวน 12 รัฐจากทั้งหมด13 รัฐทั่วประเทศ (ยกเว้นรัฐซาราวัค)
           ผลการเลือกตั้งที่ออกมาว่าพรรคการเมือง 13 พรรคที่เป็นพันธมิตรฝ่ายรัฐบาล ที่เรียกตัวเอง บาริซัน เนชันแนล” (บีเอ็น) ที่มีพรรค “United Malays National Organisation” หรือพรรคองค์การสหมาเลย์แห่งชาติ (อัมโน) ของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัคเป็นแกนนำยังคงสามารถคว้าชัยชนะมาครองได้อีกครั้ง ด้วยจำนวนที่นั่งในสภา 133 ที่นั่ง แม้จะลดลงจากการเลือกตั้งครั้งก่อน 7 ที่นั่ง ขณะที่พรรคแนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรคในนาม ปากาตัน รักยัต” ภายใต้การนำของนายอันวาร์ อิบราฮิมคว้ามาได้ 89 ที่นั่ง เพิ่มขึ้น 7 ที่นั่งจากการเลือกตั้งครั้งที่แล้ว
        อย่างไรก็ดี เป็นที่น่าสังเกตว่าแนวร่วมฝ่ายค้านภายใต้การนำของนายอันวาร์ กลับเป็นฝ่ายที่ได้รับคะแนน ป็อปปูลาร์ โหวต” จากประชาชนสูงกว่าพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลที่ราว 5.6 ล้านเสียง ต่อ 5.2 ล้านเสียง ขณะที่จำนวนผู้ที่ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศอยู่ที่ระดับ 84.84 เปอร์เซ็นต์
          หลังมีการประกาศผลการเลือกตั้งเพียง 1 วัน นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค ได้เข้าทำพิธีถวายสัตย์ปฏิญาณ ต่อสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งมาเลเซียเมื่อวันจันทร์ที่ 6 พฤษภาคมเพื่อเข้ารับตำแหน่งบริหารประเทศสมัยที่ 2 แม้การเลือกตั้งทั่วไปที่เพิ่งจบสิ้นลง จะถูกฝ่ายค้านประณามว่าเต็มไปด้วย การทุจริต
            อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำของพันธมิตรฝ่ายค้าน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ประชาชนร่วมกันชุมนุมประท้วง การโกงเลือกตั้งที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์มาเลเซีย” ในวันพุธที่ 8 พฤษภาคม ณ สนามกีฬาแห่งหนึ่งนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยย้ำว่ารัฐบาลของนาจิบ ราซัคได้สูญสิ้นความชอบธรรมในการปกครองบ้านเมือง และอันวาร์ยังขนานนามการจัดการเลือกตั้งครั้งนี้ว่าเป็นการ ก่ออาชญากรรมต่อชาวมาเลเซีย
         บรรดาผู้สนับสนุนแนวร่วมฝ่ายค้านต่างแสดงออกถึงความรู้สึกผิดหวังและขมขื่นกับผลการเลือกตั้งที่ออกมา เนื่องจากพวกเขาคาดหมายไว้สูงว่าการเลือกตั้งคราวนี้จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งประวัติศาสตร์ในประเทศแต่ผลลัพธ์คือ พวกเขาได้ที่นั่งในสภาเพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่แล้วในปี 2008 เพียง 7 ที่นั่งเท่านั้น
          ขณะที่ในการเลือกตั้งคราวนี้ ผู้มีสิทธิออกเสียงมากมายร้องเรียนว่า มาตรการสำคัญประการหนึ่งซึ่งทางการมาเลเซียระบุว่าเป็นเครื่องรับประกันว่าจะไม่มีการโกงการเลือกตั้ง อันได้แก่การให้ผู้ที่ใช้สิทธิแล้ว พิมพ์นิ้วมือ” ด้วยหมึกที่ไม่สามารถลบได้” เพื่อป้องกันการเวียนเทียนลงคะแนนนั้น แท้จริงแล้วหมึกดังกล่าวสามารถใช้นิ้วลบออกอย่างง่ายดาย นอกจากนี้ยังมีคลิปวิดีโอ ภาพถ่าย และข้อมูลจากผู้เห็นเหตุการณ์จำนวนมาก ที่ยืนยันผ่านโลกออนไลน์ว่า พบ ผู้มีสิทธิออกเสียง” ชาวต่างชาติในคูหาเลือกตั้ง ซึ่งตรงกับที่อันวาร์ เคยกล่าวหาก่อนวันเลือกตั้งไม่นานว่ารัฐบาลขน ผู้ต้องสงสัย” หลายหมื่นคนซึ่งอาจเป็นชาวต่างชาติไปยังเขตเลือกตั้งหลายแห่งทั่วประเทศ
          อันวาร์วัย 65 ปีซึ่งเคยมีตำแหน่งสูงสุดทางการเมืองเป็นถึงรองนายกรัฐมนตรีมาเลเซียในระหว่างปี 1993-1998และถูกวางตัวเป็น ทายาททางการเมือง” ของ มหาเธร์ โมฮัมหมัด กล่าวต่อกลุ่มผู้สนับสนุนที่เข้าร่วมชุมนุมเมื่อคืนวันพุธ (8) ณ สนามกีฬาแห่งหนึ่งนอกกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยยืนยันจะเดินหน้าคัดค้านผลการเลือกตั้งใน 30 เขต ที่ผู้สมัครของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ปากาตัน รักยัต” ทั้ง 3 พรรค ประสบความพ่ายแพ้ต่อผู้สมัครของฝ่ายรัฐบาลแบบน่ากังขา โดยเขามั่นใจว่าการต่อสู้ตามแนวทางนี้มากพอที่จะก่อให้เกิดการพลิกผันของผลการเลือกตั้งได้
             ขณะที่จำนวนของผู้ออกมาชุมนุมตามการเชิญชวนของอันวาร์นั้น รอฟิซี รัมลี ผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์ของพรรคพีเพิลส์ จัสทิซของนายอันวาร์ระบุว่ามีผู้เดินทางมาร่วมชุมนุมสูงถึงราว 80,000 คน ทั้งที่มีฝนตกหนักและมีคำขู่จากทางการมาเลเซียว่าจะจับกุมผู้ที่เข้าร่วมการชุมนุมของฝ่ายค้าน ขณะที่ข้อมูลของตำรวจเผยว่าผู้เข้าร่วมการชุมนุมของฝ่ายค้านมีจำนวนประมาณ 60,000 คน
            ด้านคณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซียเผย ผู้สมัครที่ข้องใจในผลการเลือกตั้งมีเวลา 21 วันในการยื่นเรื่องร้องเรียน และหากมีการตรวจสอบพบการทุจริตจริงตามข้อร้องเรียน ผู้พิพากษาก็จะออกคำสั่งให้มีการเลือกตั้งซ่อมในเขตที่พบปัญหา
           เมื่อถึงตอนนี้ คงไม่ผิดนักหากจะสรุปว่า แม้การเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซียที่เกิดขึ้นในคูหา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5พฤษภาคมจะจบสิ้นลงไปแล้ว แต่ การเมืองนอกคูหา” ของมาเลเซียดูจะจะยังคงดำเนินต่อไป ตราบใดที่รัฐบาลของนาจิบ ราซัคยังไม่อาจยืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ว่าได้รับชัยชนะมาอย่างขาวสะอาด โดยมีความเป็นไปได้ที่อาจได้เห็นการประท้วงตามท้องถนนที่ยืดเยื้อจากฝ่ายค้านของอันวาร์ อิบราฮิม และหากเป็นเช่นนั้นก็คงส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของมาเลเซียที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ ของกลุ่มอาเซียนและอันดับ 29 ของโลกมิใช่น้อย